“บัตรเครดิตฝากค้ำ” คืออะไร ? เหมาะสมกับใคร ? มันมีข้อดีหรือจุดเด่นในด้านไหนบ้าง ? ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับบัตรเครดิตฝากค้ำพร้อมๆ กัน!
“บัตรเครดิตฝากค้ำ” คืออะไรและมีข้อดีอย่างไรบ้าง ?
โดยทั่วไปแล้วผู้คนคงจะคุ้นเคยกับบัตรเครดิตประเภทต่างๆ เป็นอย่างดี แต่! ก็ยังมีบัตรเครดิตอีกหนึ่งประเภทที่ผู้คนยังไม่ค่อยจะรู้จักและเข้าใจในบริบทของมันสักเท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นก็คือ “บัตรเครดิตฝากค้ำ” โดยบัตรประเภทนี้นั้นเราต้องขอบอกเลยว่ามันได้ถือกำเนิดมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีรายได้ไม่ประจำ อาทิ อาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เจ้าของกิจการขนาดเล็ก ฯลฯ แต่มันจะอำนวยความสะดวกอย่างไร ? และมีข้อดีหรือจุดเด่นในด้านไหนบ้าง ? เราไปทำความรู้จักกับ บัตรเครดิตฝากค้ำ พร้อมๆ กันเลยดีกว่า!
บัตรเครดิตฝากค้ำ คืออะไรนะ ?
บัตรเครดิตฝากค้ำหรือบัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากค้ำประกัน คือ บัตรเครดิตที่จะนำเงินฝากในบัญชีมาทำการค้ำประกัน โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องมี Statement หรือใบรับรองเงินเดือน ส่งผลให้บัตรเครดิตประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่ประจำเป็นอย่างมาก! เพราะหากเป็นในอดีตการทำบัตรเครดิตของเหล่าอาชีพอิสระ อาทิเช่น รับจ้างทั่วไป ฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ฯลฯ จะทำการขออนุมัติบัตรเครดิตได้ยากมากๆ แม้จะมีรายได้มากสักแค่ไหนก็ตาม! ดังนั้นทางธนาคารและสถาบันการเงินจึงได้ออกแบบบัตรเครดิตฝากค้ำขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์และเจาะกลุ่มผู้ที่ทำอาชีพอิสระนั่นเอง
ข้อดีของบัตรเครดิตฝากค้ำ ที่หลายๆ คนยังไม่เคยรู้!
1.ทำการสมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้เอกสารไม่เยอะ
2.สิทธิพิเศษต่างๆ ภายในบัตรเครดิตฝากค้ำก็สามารถใช้ได้ตามปกติ เหมือนกับบัตรเครดิตทั่วๆ ไป
3.สามารถสะสมแต้มได้เหมือนกับบัตรเครดิตทั่วๆ ไป
4.เงินที่นำไปค้ำประกันก็ยังคงได้ดอกเบี้ยตามปกติ
5.ผู้ที่ทำอาชีพอิสระทุกอาชีพ สามารถมีบัตรเครดิตเป็นของตัวเองได้
คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการทำบัตรเครดิตฝากค้ำ
สำหรับผู้ที่ต้องการจะสมัครบัตรเครดิตฝากค้ำนั้น คุณจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้…
1.ผู้สมัครจะต้องมีอายุ 20 ขึ้นปีไป – 70 ปี
2.สามารถเปิดบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีแบบฝากประจำใหม่แบบ 3 เดือน, 6 เดือน หรือ 12 เดือน ได้
3.ต้องไม่มีประวัติทางการเงินที่ด่างพร้อย (ติด Blacklist หรือติดบูโร)
ทั้งนี้ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังคงได้รับตามปกติของประเภทบัญชีที่คุณได้เปิดกับทางธนาคาร (แม้ว่าเงินก้อนนั้นจะถูกนำไปค้ำประกันก็ตาม) รวมไปถึงวงเงินของบัตรเครดิตฝากค้ำที่คุณจะได้รับการอนุมัติจะอยู่ที่ 90 – 100% ของวงเงินที่นำมาใช้ค้ำประกัน
เอกสารที่จำเป็นจะต้องใช้ในการสมัครบัตรเครดิตฝากค้ำ
1.บัตรประจำตัวประชาชน
2.สำเนาทะเบียนบ้าน
3.สมุดเงินฝากบัญชีธนาคาร เพื่อใช้ในการค้ำประกัน
โดยเราต้องขอบอกเลยว่าเอกสารข้อที่ 3 นี้ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก! เนื่องจากจำนวนเงินในบัญชีเงินฝากของคุณนั้นจะเป็นตัวชี้วัดว่าคุณจะได้รับวงเงินในบัตรเครดิตฝากค้ำเท่าไหร่ ? ซึ่งบางธนาคารก็ให้เท่ากับเงินในบัญชีของคุณ บางธนาคารก็ให้ 80-90% ของเงินในบัญชี (แล้วแต่ข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร)
4.Statement ย้อนหลัง 6-12 เดือน
จริงๆ แล้วการสมัครบัตรเครดิตฝากค้ำนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ Statement แต่! นี่คือทริคที่จะทำให้คุณมีโอกาสได้รับการอนุมัติได้ไวและง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะถ้า Statement ของคุณมีการเดินบัญชีอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้ทางธนาคารเห็นว่าคุณมีความสามารถในการผ่อนชำระนั่นเอง
รายละเอียดข้างต้นคงพอจะทำให้คุณได้รู้จักกับ “บัตรเครดิตฝากค้ำ” กันเพิ่มมากยิ่งขึ้น! ซึ่งโดยสรุปแล้วบัตรเครดิตฝากค้ำ ถือได้ว่าเป็นรูปแบบบัตรเครดิตที่ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีรายได้ไม่ประจำโดยเฉพาะ ดังนั้นหากคุณเป็นฟรีแลนซ์หรือประกอบอาชีพอิสระ และต้องการที่จะมีบัตรเครดิตติดตัวเอาไว้สักใบ “บัตรเครดิตฝากค้ำ” ก็คงจะเหมาะสมและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้คุณสามารถเข้าไปดูรายละเอียดบัตรเครดิตฝากค้ำจากธนาคารชั้นนำเจ้าต่างๆ ได้ที่ Rabbit Care เว็บไซต์ที่จะช่วยทำให้คุณได้พบกับบัตรเครดิตที่ตรงกับ Lifestyle ในการใช้ชีวิต!